12 หุ้น SET100 ยอดฮิตสุดแกร่ง ผลตอบแทนราคาบวก 3 ปีติด

เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

 

กลุ่มหุ้น SET100 เป็นที่นิยมของนักลงทุนจำนวนเพราะได้ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว ซึ่งหลายหลักทรัพย์มีความแข็งแร่งของธุรกิจ สามารถสร้างผลตอบแทนด้านราคาบวกได้ต่อเนื่อง ถึง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปี 2564 ซึ่งรวบรวมมาได้ 12 หลักทรัพย์ เรียงตามผลตอบแทนราคา ปี 2564 ที่เป็นบวกสูงสุดลงไปหาต่ำสุด

1.JMART (บมจ.เจ มาร์ท) มาร์เกตแคป 78,786.18 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาปี 2564 คือ +185.00% ปี 2563 คือ +139.52% ปี 2562 คือ +117.51% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 57.75 บาท ต่ำสุด 19.50 บาท ค่าเฉลี่ย 37.41บาท ราคาล่าสุด 57.00 บาท ดาวน์อัพไซด์ 8.98% จากราคาเป้าหมาย 51.88 บาท โดยโบรคระบุว่า หลังการเพิ่มทุนเสร็จสิ้นจะทำให้ JMART สามารถรักษาการเติบโตที่แข็งแกร่งได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า

JMART ประกอบธุรกิจจำหน่ายทั้งค้าปลีกและค้าส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่หลักทุกรายผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก (10 ก.ย.2564) นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ถือใหญ่สุด 17.10% และมีคนดังร่วมถือด้วยคือ นายพีรนาถ โชควัฒนา 2.55% ,น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี 1.97%

2.RBF (บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย) มาร์เกตแคป 45,400.00 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาปี 2564 คือ +144.09% ปี 2563 คือ +111.36% ปี 2562 คือ +33.33% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 23.60 บาท ต่ำสุด 8.35 บาท ค่าเฉลี่ย 18.03 บาท ราคาล่าสุด 22.70 บาท ดาวน์ไซด์ 3.08% จากราคาเป้าหมาย 22.00 บาท คาดรายได้จากธุรกิจกัญชงเข้ามาและหนุนผลประกอบการเติบโต

RBF เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก (29 พ.ย.2564) นางเพ็ชรา รัตนภูมิภิญโญถือใหญ่สุด 22.80%

3.HANA (บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส) มาร์เกตแคป 73,042.76 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาปี 2564 คือ +128.30% ปี 2563 คือ +15.22% ปี 2562 คือ +4.55% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 96.25 บาท ต่ำสุด 39.25 บาท ค่าเฉลี่ย 68.18 บาท ราคาล่าสุด 90.75 บาท เหลืออัพไซด์ 5.78% จากราคาเป้าหมาย 96.00 บาท คาดผลงาน Q4 โตต่อเนื่อง รับธุรกิจ IC&PCBA ตามดีมานด์แข็งแกร่งหนุน ผสาน S-Curve

HANA ให้บริการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิกส์แบบครบวงจร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก (01 พ.ย. 2564) โดบมี OMAC (HK) LIMITED ถือใหญ่สุด 21.43%

4.COM7 (บมจ.คอมเซเว่น) มาร์เกตแคป 97,800.00 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาปี 2564 คือ +108.97% ปี 2563 คือ +47.17% ปี 2562 คือ +70.97% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 84.00 บาท ต่ำสุด 37.50 บาท ค่าเฉลี่ย 65.64 บาท ราคาล่าสุด 81.50 บาท เหลืออัพไซด์ 3.07% จากราคาเป้าหมาย 84.00 บาท เป็น1 ในหุ้นรับอานิสงส์ “ช้อปดีมีคืน” โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.65

COM7 ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอที ประเภทคอมพิวเตอร์แล็บท็อป คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต รวมทั้งให้บริการศูนย์ซ่อมสินค้าแบรนด์ Apple ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก (30 เม.ย.2564) นายสุระ คณิตทวีกุล ถือใหญ่สุด 25.05 และเซียนหุ้นคนดัง น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี 18.90%

5.JMT (บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส) มาร์เกตแคป 76,591.55 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาปี 2564 คือ +93.36% ปี 2563 คือ +80.00% ปี 2562 คือ +78.57% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 70.00 บาท ต่ำสุด 33.46 บาท ค่าเฉลี่ย 44.94 บาท ราคาล่าสุด 68.00 บาท ดาวน์ไซด์ 7.91% จากราคาเป้าหมาย 62.62 บาท

JMT ประกอบธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ โดยซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน หรือบริษัทต่างๆ และนำมาบริหารจัดเก็บหนี้ รวมถึงธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยมี บมจ.เจ มาร์ท ถือใหญ่สุด 53.91% และมีนักลงทุนมืออาชีพเข้าร่วม 3 รายคือ 1.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ถือ 3.05% 2.นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี ถือ 2.22% และ 3.น.ส.พิชญ์สินี เสรีวิวัฒนา (ลูกสาว ดร.ไพบูลย์) ถือ 1.09% ซึ่งเท่ากับ ดร.ไพบูลย์ กับลูกสาวถือรวม 4.14%

6.EA (บมจ.พลังงานบริสุทธิ์) มาร์เกตแคป 348,755.00 ล้านบาท ผลตอบแทนราคา ปี 2564 คือ +89.85% ปี 2563 คือ +12.57% ปี 2562 คือ +2.94% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 105.50 บาท ต่ำสุด 48.25 บาท ค่าเฉลี่ย 64.49 บาท ราคาล่าสุด 93.50 บาท ดาวน์ไซด์ 13.90% จากราคาเป้าหมาย 80.50 บาท ล่าสุดคิฟออฟเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในพื้นที่อีอีซี มีกำลังการเริ่มต้น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ถือเป็นโรงงานที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในอาเซียน

EA ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (B100) ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ ธุรกิจบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก (15 มี.ค.2564) นาย สมโภชน์ อาหุนัย ถือใหญ่สุด 23.21% และมี น.ส.พลอยส่องแสง นพรัมภา ลูกสาวเสี่ยโป๋ว-ธีรพล นพรัมภา คนสนิท เนวิน ชิดชอบ ถือ 1.72%

7.BEC (บมจ.บีอีซี เวิลด์) มาร์เกตแคป 27,400.00 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาปี 2564 คือ +70.19% ปี 2563 คือ +36.44% ปี 2562 คือ +22.41% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 15.80 บาท ต่ำสุด 7.50 บาท ค่าเฉลี่ย 11.64 บาท ราคาล่าสุด 13.70 บาท เหลืออัพไซด์ 16.79% จากราคาเป้าหมาย 16.00 บาท แม้จะได้รับผลกระทบจากโควิดแต่ชดเชยได้จากการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด แนวโน้มกำไร 4Q 64 ยังดีต่อเนื่อง

BEC ประกอบธุรกิจหลัก คือ1) กลุ่มธุรกิจคอนเทนต์ – แพลตฟอร์มโทรทัศน์, ดิจิทัลแพลตฟอร์ม, การจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ, 2) กลุ่มธุรกิจสนับสนุน โดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก (02 เม.ย. 2564) มีนายทวีฉัตร จุฬางกูร ถือใหญ่สุด 13.60% และมีนางหทัยรัตน์ จุฬางกูร ถือ 5.25 นายณัฐพล จุฬางกูร ถือ 1.86% ขณะน.ส. รัตนา มาลีนนท์ 10.12% น.ส. อัมพร มาลีนนท์ 7.49% และน.ส.นิภา มาลีนนท์ 7.49%

8.ORI (บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้) มาร์เกตแคป 27,472.06 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาปี 2564 คือ +48.34% ปี 2563 คือ +7.86 % ปี 2562 คือ +6.06% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 12.00 บาท ต่ำสุด 6.70 บาท ค่าเฉลี่ย 9.26 บาท ราคาล่าสุด 11.20 บาท เหลืออัพไซด์ 19.64% จากราคาเป้าหมาย 13.40 บาท โบรคมองว่า ORI ยังสามารถทำกำไรให้เติบโตได้ดี ดังนั้น เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงก็เป็นจังหวะในการเข้าซื้อได้

ORI ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก (23 พ.ย. 2564) นายพีระพงศ์ จรูญเอก ถือใหญ่สุด 28.28% และมีคนดังอย่างเสี่ยปู่นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ถือ 4.32%

9.GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์) มาร์เกตแคป 513,325.31 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาปี 2564 คือ +27.74% ปี 2563 คือ +4.34% ปี 2562 คือ +103.68% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 45.25 บาทต่ำสุด 31.00 บาท ค่าเฉลี่ย 36.91 บาท ราคาล่าสุด 43.75 บาท เหลืออัพไซด์ 4.57% จากราคาเป้าหมาย 45.75 บาท โบรกเกอร์คาด GULF กำไรในไตรมาส 4/64 ดีมาก จากรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล

GULF เป็นธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก (14 พ.ค.2564) นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ถือใหญ่สุด 35.55% บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ถืออันดับ 8 ถือ 1.88% และ ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถืออันดับ 9 ถือ 1.27%

10.PTL (บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย)) มาร์เกตแคป 21,780.00 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาปี 2564 คือ +7.08% ปี 2563 คือ +55.86% ปี 2562 คือ +11.54% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 31.75 บาท ต่ำสุด 21.80 บาท ค่าเฉลี่ย 25.21 บาท ราคาล่าสุด 24.20 บาท เหลืออัพไซด์ 19.83% จากราคาเป้าหมาย 29.00 บาท เริ่มสายการผลิตแผ่นฟิลม์ BOPP ใหม่ในประเทศอินโดนีเซียแล้ว

PTL ผลิตและส่งออกพลาสติกฟิล์มใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรม และอุปกรณ์ไฟฟ้า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก (26 พ.ย. 2564) POLYPLEX (ASIA) PTE LTD. ถือใหญ่สุด 33.74%

11.ICHI (บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป) มาร์เกตแคป 12,870.00 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาปี 2564 คือ +7.03% ปี 2563 คือ +83.17% ปี 2562 คือ +69.46% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 15.00 บาท ต่ำสุด 9.10 บาท ค่าเฉลี่ย 11.88 บาท ราคาล่าสุด 9.90 บาท เหลืออัพไซด์ 38.38% จากราคาเป้าหมาย 13.70 บาท

ICHI ประกอบธุรกิจเครื่องดื่ม เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่ม อิชิตัน กรีนที ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก(07 พ.ค.2564) นายตัน ภาสกรนที ถือใหญ่สุด 27.74%

12.CBG (บมจ.คาราบาวกรุ๊ป) มาร์เกตแคป 120,000.00 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาปี 2564 คือ +4.80% ปี 2563 คือ +36.31% ปี 2562 คือ +173.17% และในปี 2564 ทำราคาสูงสุด 156.00 บาท ต่ำสุด 108.00 บาท ค่าเฉลี่ย 129.97 บาท ราคาล่าสุด 120.00 บาท เหลืออัพไซด์ 12.71% จากราคาเป้าหมาย 135.25 บาท การันตีด้วยรางวัล Best CEO และ Best Company Performance 2 ปีติดต่อกัน

CBG ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น ซึ่งมีการลงทุนหลักในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจ ผลิต ทำการตลาด จำหน่าย และบริหารจัดการการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่น ๆ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก (30 ส.ค.2564) โดยมี บริษัท เสถียรธรรมโฮลดิ้ง จำกัด ถือใหญ่สุด 25.01% น.ส.ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ 21.00% และนายยืนยง โอภากุล (แอ๊ดคาราบาว) 7.05%

อย่างไรก็ตาม หุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกมองว่า ยังมีอนาคตได้ไปต่อ ในปี 2565 ซึ่งต้องจับตาว่า จะมีปัจจัยอื่นมาแทรกแซงทำให้สะดุดหรือไม่?

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket