ศบค.แจงแผนฉีดวัคซีนเด็ก5-11 ปี ย้ำไฟเซอร์ผู้ใหญ่ใช้กับเด็กไม่ได้

ข่าวสุขภาพ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

ผู้ช่วยโฆษก ศบค.แจงฉีดวัคซีนโควิด เด็ก 5-11ปี ไล่ลงไปอายุน้อย ย้ำไฟเซอร์ของผู้ใหญ่ใช้กับเด็กไม่ได้ เปิด 10 จังหวัด ติดเชื้อสูงสุดกลุ่มเด็กวัยเรียน-วัยรุ่นอายุ 6-18 ปี

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.65พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวันถึงการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กเล็ก 5-11 ปี ว่า หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)อนุมัติวัคซีนไฟเซอร์ มีการสั่งเรียบร้อย และจะทยอยเข้ามาช่วงปลายเดือนนี้หรือภายในเดือนก.พ.65 ซึ่งถือว่าเร็วมาก เพราะว่าวัคซีนเด็กเป็นที่ต้องการทั่วโลก ของไทยถือว่าเป็นประเทศอันดับสองที่ได้วัคซีนเด็กในทวีปเอเชีย ตอนนี้เตรียมแผนแล้ว โดยจะฉีดไล่จาก11 ปีลงมา โดยวัคซีนที่จะฉีดให้เด็กจะเป็นฝาสีส้ม จำนวน10ไมโครกรัมต่อโดส ส่วนของผู้ใหญ่ฝาสีม่วง จำนวน 30 ไมโครกรัม ไม่สามารถจะแบ่งวัคซีนของผู้ใหญ่มาฉีดให้เด็กได้ ส่วนพ่อแม่ผู้ปกครอง อยากให้ลูกของตัวเองฉีดวัคซีนเชื้อตาย ขอให้รออีกระยะ อยู่ระหว่างดำเนินการ เนื่องจาก ต้องรอผ่านคณะอนุกรรมการอย. อนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ปกครองสามารถเลือกสูตรได้ตามความสมัครใจ

ทั้งนี้ ในที่ประชุมศปก.ศบค.ได้หารือถึงการเปิด-ปิดโรงเรียน จากสถานการณ์ขณะนี้ทำให้หลายที่ได้มีการปรับจากการเรียนจากออนไซต์ เป็นการเรียนออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งความเป็นจริงแล้วทางกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการประชุมและจัดทำมาตรการป้องกันต่างๆ เริ่มตั้งแต่ให้มีการประเมินสถานการณ์ก่อนเปิดเรียน ทั้งมีแผนเผชิญเหตุ ขณะที่สถานการณ์ติดเชื้อเด็กนักเรียน อายุ 0-19 ปี ตั้งแต่ 1 ธ.ค.64-7 ม.ค.65 พบในวันที่ 7 ม.ค.65 มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 7,526 คน พบเป็นกลุ่มอายุ 0-19 ปีจำนวน 1,048 คน หรือคิดเป็น 13.9%

อังกฤษชี้โควิดอยู่ในห้องน้ำได้อีก 20 นาทีหลังคนป่วยเข้าใช้
“ให้ด้วยใจ”กลุ่มพลังใจโคราช ตรวจATKฟรี
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีการติดเชื้อในเด็กนักเรียนอายุ 6-18 ปีสูงสุด ดังนี้ 1. กทม.282 ราย 2. ชลบุรี 105 ราย 3. อุบลราชธานี 91 ราย 4. สมุทรปราการ 60 ราย 5. พังงา 56 ราย 6. กาฬสินธุ์ 52 ราย7. ภูเก็ต 51 ราย 8. ขอนแก่น 50 ราย 9. พัทลุง 50 ราย 10. ร้อยเอ็ด 50 ราย

โดยสาเหตุการติดเชื้อส่วนใหญ่ 1,134 ราย จากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน ไม่ระบุ 589 ราย และจากสถานบันเทิง 97 ราย โดยได้รับวัคซีนในกลุ่ม 12-17 ปี เข็มแรก 4.1 ล้านราย เข็มสอง 3.5 ล้านราย ทั้งนี้ การป้องกันควบคุมโรคในโรงเรียนได้ให้ใช้ 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตรการเข้มงวด ซึ่งจากผลการประเมินสถานศึกษาผ่านเกือบ 100% เมื่อประมวลสถานการณ์จริง การฉีดวัคซีน การมีแผนเผชิญเหตุชัดเจน หากเจอมีการติดเชื้อในโรงเรียน 1-2 คน ไม่จำเป็นต้องปิดทั้งโรงเรียนด้วย 2 ปีกว่าของการระบาดที่ทำให้การเรียนมีผลกระทอย่างมาก โดยได้ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ได้มีการจัดทำความเข้าใจให้ตรงกันกับสถานศึกษา

อ้างอิง
https://www.posttoday.com